Merlin's Solutions International | Ecosystem ที่ระบบ AI ต้องการ
16486
bp-legacy,post-template-default,single,single-post,postid-16486,single-format-standard,ajax_fade,page_not_loaded,,qode-theme-ver-9.1.2,wpb-js-composer js-comp-ver-4.9.2,vc_responsive

Ecosystem ที่ระบบ AI ต้องการ

18 ก.พ. Ecosystem ที่ระบบ AI ต้องการ

        โดยทั่วไปแล้ว ecosystem ในองค์กรนั้นประกอบไปด้วยสิ่งที่จับต้องได้และไม่ได้ การจัดกลุ่มของส่วนประกอบต่าง ๆ สามารถจัดกลุ่มได้หลายรูปแบบอยู่ที่ Framework หรือมุมมองไหนจะเน้นเรื่องอะไร จากแนวคิดของ Enterprise Architecture (EA) เราก็จะได้ว่าองค์ประกอบหลัก ๆ ของ Ecosystem ขององค์กรนั้นประกอบไปด้วยส่วนประกอบหลัก ๆ คือ วิสัยทัศน์ขององค์กร ส่วนประกอบด้านธุรกิจ ด้านข้อมูล ด้านระบบสารสนเทศ และด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ รวมถึงระบบพื้นฐานขององค์กร จากบทความที่ผ่านมาที่กล่าวถึงความ AI และ EA บทความนี้เรามาเจาะลึกเข้าไปใน Ecosystem ขององค์กรโดยใช้ EA เป็นกรอบแนวคิดกันครับ
        Strategic – จาก Vision ของ Google ที่ว่า Mobile-First ซึ่งหมายถึงการมุ่งสร้างบริการของ Google ที่พุ่งเป้าไปที่การให้274240686_5087313374624405_3160151991210220829_nบริการผ่าน Mobile Devices ต่าง ๆ มาเป็น AI-First ในปี ค.ศ. 2017 ซึ่งหมายถึงการใช้ AI มาเป็นเครื่องมือในทุก ๆ บริการของ Google เพื่อให้ภาพลักษณ์โดยรวมการให้บริการของบริษัทเปลี่ยนจากการเป็น “Search Engine” หรือแม้แต่การทำหน้าที่ “Organizing The World’s Information” ไปสู่การช่วยให้คุณ “Get Things Done” จนนำไปสู่การเป็น Vision ของหลายองค์กรและแม้แต่มีหนังสือ เช่น The AI-First Company: How to Compete and Win with Artificial Intelligence นั้นชัดเจนครับว่าการนำ AI มาใช้ในองค์กรนั้นต้องเริ่มจาก Vision ขององค์กรเลย ไม่ใช่แค่การมีโครงการเกี่ยวกับ AI เท่านั้น ทำไมต้องถึงขนาดเป็น Vision ขององค์กรเลย? เหตุผลง่าย ๆ เช่น เราเอารถ Sport ความเร็วสูงมาใช้ในเมืองที่วุ่นวาย ทุกอย่างเหมือนเดิม ไม่มีการปรับเปลี่ยนใด ๆ เพื่อรองรับความเร็วของรถ ไม่มีทางที่รถคันนั้นจะวิ่งได้ตามที่ความสามารถรถมีครับ (และที่สำคัญคือวิ่งไม่คุ้มเงินที่ลงทุนไปด้วย) การที่จะทำให้ระบบ AI ถูกใช้งานอย่างเต็มรูปแบบต้องการเปลี่ยนแปลงในระดับกลยุทธ์เลย หรือที่ใน EA เรียกว่า Strategic Level เพราะ AI ต้องการข้อมูลที่มีคุณภาพจำนวนมาก ซึ่งข้อมูลดังกล่าวก็ไม่ได้มาเพราะแค่องค์กรมีระบบสารสนเทศ แต่เพราะภาพรวม เพราะ Business Process ที่สร้างข้อมูลที่ต้องการ มีเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการ Process การรับ-ส่งข้อมูล และที่สำคัญคือการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในองค์กรบ่อยครั้งต้องการ “ดาบอาญาสิทธิ์” ของผู้บริหารเพื่อการปรับเปลี่ยนทั้งวิธีการทำงานและแม้แต่กฎระเบียบที่ควรจะสนับสนุนการสร้างและส่งข้อมูลให้ระบบ AI
Business – ในส่วนประกอบด้านธุรกิจ Bill Gates เคยกล่าวไว้เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีกับการทำงานภายในขององค์กร (หรือ Operation/Business Process) ว่า “The first rule of any technology used in a business is that automation applied to an efficient operation will magnify the efficiency. The second is that automation applied to an inefficient operation will magnify the inefficiency.” จากคำแนะนำดังกล่าว แม้ว่าจะเป็นคำแนะนำที่ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าเป็นของระบบ AI ก็จะพบว่า Efficiency ของ Business Process มีผลโดยตรงกับการทำงานขององค์กรในภาพรวมโดยปัญหาจะยิ่งเพิ่มอย่างมากถ้ามีการเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้โดยไม่มีการปรับปรุง Process ต่าง ๆ ให้เหมาะสม ซึ่ง Efficiency ดังกล่าวนั้นสามารถพัฒนาได้โดยการลดขั้นตอน ลดกระดาษ และที่สำคัญคือการลดการเซ็นต์กำกับเอกสารต่าง ๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะบ่อยครั้งที่การที่ต้องลายเซ็นต์ในเอกสารทำให้ในภาพรวมแล้วองค์กรไม่สามารถลดขั้นตอนและกระดาษได้ เมื่อขั้นตอนต่าง ๆ ยังเป็นแบบ Manual หรือมีการ Key-in จากฟอร์มที่ไม่ยอมลดลง ก็จะทำให้ข้อมูลที่เข้าสู่ระบบลดลง ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลโดยตรงต่อทุกระบบสารสนเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบ AI ต้องการจะนำมาใช้หรือที่มีอยู่
Data – ดังที่กล่าวมาข้างต้นว่าเทคโนโลยีที่ใช้เป็นพื้นฐานให้กับระบบ AI ในปัจจุบันนี้ต้องการทั้ง “ข้อมูล” ที่มีคุณภาพจำนวนมาก เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับ “การคำนวณ” ที่มีความสามารถสูง และ “ระบบเครือข่าย” ที่ช่วยให้การรับส่งข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะว่าไปแล้วไม่ใช่เฉพาะกับระบบ AI ครับ สำหรับระบบสารสนเทศโดยทั่วไปแล้วถ้าไม่มีข้อมูล ยังไงระบบก็ไม่ทำงานตามเป้าประสงค์ที่ตั้งไว้ แต่สำหรับ AI แล้วด้วยความที่ระบบ AI หลายระบบนั้นมาพร้อม ๆ กับความคาดหวังขององค์กรที่มากกว่าแค่การ “รับ” และ “แสดง” ข้อมูลทั่ว ๆ ไปแบบที่ระบบสารสนเทศทั่ว ๆ ไปนั้นทำได้ ระบบจะต้องทำได้หลากหลายรูปแบบ (ที่หนักสุดคือสำหรับบางองค์กรแล้ว มองว่าระบบ AI จะต้องทำงานได้ดีกว่า “เจ้าหน้าที่” ที่มีด้วยซ้ำ) ทำให้ระบบต้องการทั้ง “จำนวน” และ “รายละเอียด” ของข้อมูลที่มากพอที่จะตอบคำถามหรือทำงานตามที่คาดหวังนั้นได้ และที่หนักไปกว่านั้นคือ บ่อยครั้งระบบ AI ซึ่งก็เหมือนกับระบบคอมพิวเตอร์ทั่ว ๆ ไปที่ต้องการข้อมูลที่มี “คุณภาพ” ด้วยไม่ใช่มีแต่ “ปริมาณ” ที่มากเท่านั้น สำหรับระบบสารสนเทศทั่ว ๆ ไปเช่น Application ที่รับสั่งของใช้จาก Supermarket ให้มาส่งที่บ้านสามารถคำนวณและรับชำระเงินได้ถูกต้องก็ถือว่าทำงานได้ตามที่คาดหวังแล้ว แต่ถ้าระบบเดียวกันเมื่อลูกค้าเลือกสินค้าเช่น เครื่องดื่มกระป๋อง แล้วถ้าระบบต้องไปทำการ “วิเคราะห์” พฤติกรรมของลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน หรือแม้แต่ Behavior Pattern การซื้อลูกค้าคนนั้น ๆ ว่าที่ผ่านมาเวลาที่เขาซื้อเครื่องดื่มนี้แล้วเขาน่าจะอยากซื้ออะไรด้วย? เพื่อแนะนำลูกค้าแบบอัตโนมัติ การที่ระบบจะทำอย่างนั้นได้ ระบบจะต้องมีทั้งข้อมูลการซื้อขายที่ผ่านมา ช่วงวันเวลา ข้อมูลว่าช่วงนั้นเป็นเวลาของเทศกาลอะไรพิเศษหรือไม่ หรือแม้แต่อุณหภูมิของช่วงเวลานั้นเพื่อมาใช้ร่วมในการวิเคราะห์ด้วย ซึ่งนั่นชัดเจนครับว่าหมายถึงข้อมูลที่หลากหลายและมีขนาดมหาศาลเมื่อเทียบกับระบบที่แค่คำนวณค่าสินค้าเท่านั้น
Technology – โดยทั่วไปแล้วเทคโนโลยีที่ทั้งการประมวลผลที่รวดเร็ว และการรับส่งข้อมูลที่มีประสิทธิภาพล้วนมีผลกับประสิทธิภาพการทำงานของระบบสารสนเทศอยู่แล้ว แต่ในกรณีของระบบ AI ซึ่งในหลายกรณีต้องการความสามารถในการประมวลผลที่สูงกว่าระบบทั่วไปเนื่องจากต้องประมวลข้อมูลจำนวนมาก รวมไปถึงการที่ระบบเครือข่ายที่ต้องสามารถรองรับจำนวนข้อมูลที่มีขนาดใหญ่อยู่ตลอดเวลาด้วย องค์กรจึงต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษด้วยสำหรับการคัดเลือก Technology ต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับการใช้งาน ไม่เช่นนั้นแล้ว Ecosystem ที่วางแผนทั้งหมดก็อาจจะไม่สามารถทำงานได้อย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้
ผู้บริหารต้องทำอย่างไร? – สำหรับผู้บริหารขององค์กรแล้วดูเหมือนจะค่อนข้างชัดเจนว่า AI นั้นสามารถถูกใช้เป็น Strategic Tools ได้ แต่ในการสร้างระบบ AI เองก็มีความต้องการด้านเทคโนโลยี และที่สำคัญคือระบบนั้นต้องการ “ข้อมูลคุณภาพจำนวนมาก” ในการทำงาน ซึ่งการที่จะได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวดูเหมือนสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ดูจากแค่การมีเทคโนโลยีราคาแพง แต่คือ “กลยุทธ์” จากมุมมองต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กรโดยเฉพาะใน Process การทำงานเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่ต้องการแล้วถึงมาคิดว่าเทคโนโลยีอะไรที่จะมาช่วยให้เราสามารถไปได้ถึงเป้าหมายขององค์กรตามกลยุทธ์ที่เราวางไว้

Comments

comments

No Comments

Post A Comment