12 ต.ค. Green IT Solutions คืออะไร ทำไมองค์กรจึงควรทำ
สาเหตุหลักของสภาวะโลกร้อน (Global Warming) เกิดขึ้นจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ มีเทน จากการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ ก่อให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก(Greenhouse effect) ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของโลกเราในปัจจุบัน ทำให้เกิดผลกระทบต่างๆ อาทิ ภาวะแล้ง น้ำท่วม สัตว์บางชนิดสูญพันธุ์ แหล่งอาหารลดลง การใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว นับเป็นสาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่องค์กรต่างๆ ทั่วโลกตื่นตัวและรณรงค์ในเรื่องการสร้างความตระหนักในปัญหาสิ่งแวดล้อม การปรับปรุง แก้ไข และลดปัญหาของสินค้าและบริการด้าน IT ที่จะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและเทคโนโลยีสีเขียว (Green IT) จึงเป็นแนวทางในการใช้เทคโนโลยีเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่ามากที่สุด
เทคโนโลยีสีเขียว (Green IT)
คือ แนวคิดในการบริหารจัดการและเลือกใช้ เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการการใช้พลังงาน ลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการสร้างขยะ รวมถึงการนำขยะอิเล็กทรอนิกส์มารีไซเคิลใหม่ ซึ่งเป้าหมายสูงสุดคือ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ต้องถูกนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด และไม่มีส่วนประกอบที่ทำจากสารพิษ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต้องใช้พลังงานน้อยลง แต่ความสามารถมากขึ้น ตามแนวคิด “Maximum Megabytes for Minimum Kilowatts” โดยหากจะพูดถึง Green IT ให้ครอบคลุมทั้งหมด คงต้องมองตั้งแต่การผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การเลือกใช้งาน และการทิ้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทั้ง 3 ขั้นตอนนั้นถือเป็นวัฏจักรของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
มาทำความรู้จักเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Green IT กันเถอะ
Energy Saving Software
คือ Software ที่ช่วยในการบริหารจัดการการทำงานภายใน Data Center โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ใดๆเพิ่มเติม Software ดังกล่าวสามารถแสดงสถานะการทำงานของอุปกรณ์ภายใน Data Center ได้ทั้งหมด พร้อมทั้งสามารถวิเคราะห์แนวโน้มของอุปกรณ์ต่างๆเพื่อการแก้ไข ซ่อมแซมหรือจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติมได้อย่างทันท่วงที Software นี้จะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของอุปกรณ์ต่างๆ ภายใน Data Center และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้เชี่ยวชาญมาดูแลโดยตรง
Software as a Service (SaaS) หรือ ODS (On Demand Software)
คือ Software บนเว็บที่ผู้ใช้สามารถเรียกใช้บริการได้ โดย Software ประเภทนี้จะไม่ถูกจัดเก็บเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ Software ดังกล่าวนั้นไม่ถูกติดตั้งลงใน Harddisk ของเครื่องที่ใช้งาน และสามารถเรียกใช้งานได้เมื่อทำการเชื่อมต่ออินเทอร์เนต โดยทำการเรียกผ่าน Browser ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น ผู้ให้บริการ SaaS สามารถเลือกทำการติดตั้ง Software ลงบน Web Server หรือทำการติดตั้งลงบนอุปกรณ์ของลูกค้า Software ดังกล่าวจะหมดอายุลงหลังจากใช้งานหรือหลังจากสัญญาที่ผู้ใช้งานซื้อหมดอายุ
Software นี้จะช่วยประหยัดงบประมาณในการจัดซื้อ Software ลิขสิทธิ์ พร้อมทั้งช่วยให้การบริหารจัดการเกี่ยวกับ Software ทำได้สะดวกสบายยิ่งขึ้นเพราะเจ้าของลิขสิทธิ์จะปรับปรุงเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องของ Software ให้เองโดยอัตโนมัติทำให้ผู้ใช้งานได้ใช้ Software ที่ใหม่อยู่เสมอ
Cloud Computing
เป็นนวัตกรรมทางด้าน Data Center รูปแบบใหม่แห่งอนาคต เกิดจากแนวคิดการให้บริการโดยใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐาน IT ที่ทำงานเชื่อมโยงกัน โดยมี Server มากมายทำงานสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อให้บริการ Softwareต่างๆ โดยคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในกลุ่ม Cloud อาจไม่จำเป็นมี Hardware และระบบปฏิบัติการเหมือนกันไปทั้งหมด และอาจไม่จำเป็นต้องติดตั้งอยู่ในสถานที่เดียวกัน แต่อาจมีการเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายสื่อสารความเร็วสูง
การประมวลผลแบบ Cloud สามารถแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ
- Private Cloud Computing เป็นการใช้งานภายในองค์กร โดยเป็นการใช้สมรรถนะของ Data Center ภายในองค์กรนั้นๆ
- Public Cloud Computing เป็นการใช้บริการการเข้าถึงข้อมูลรูปแบบต่างๆ ผ่านทาง Internet ผ่านการให้บริการของผู้ให้บริการสาธารณะ
- Hybrid Cloud Computing เป็นการผสมผสานกันระหว่างการใช้งานภายในองค์กร (Private Cloud Computing) และการใช้บริการการเข้าถึงข้อมูลรูปแบบต่างๆ ผ่านทาง Internet ผ่านการให้บริการของผู้ให้บริการสาธารณะ (Public Cloud Computing)
Thin Client
คือเทคโนโลยีการทำงานของระบบ Terminal Service ของเครื่อง Server ที่มีประสิทธิภาพในปัจจุบัน ซึ่งมีจุดเด่นคือตัวโปรแกรมที่ใช้งาน และการประมวลผลส่วนใหญ่ จะอยู่ที่เครื่อง Server ส่วนตัวเครื่อง Thin Client จะทำหน้าที่เสมือน Terminal และจะมี Hardware ที่ซับซ้อนน้อยกว่า โดยหลังจากเข้าสู่ระบบแล้ว ระบบจะส่งหน้าจอให้กับผู้ใช้งานแต่ละคน โดยผู้ใช้งานแต่ละคนสามารถทำงานกับโปรแกรมต่างๆ ของตนได้อย่างอิสระต่อกัน
Thin Client ประกอบไปด้วย 3 ส่วน คือ
- เครื่อง Thin Client
- ระบบ Server ที่รองรับการทำงานของเครื่อง Thin Client
- ระบบเครือข่าย
Blade Server
เป็นเทคโนโลยีใหม่ของ Server ซึ่งเป็นการนำแนวคิดของ Mainframe เดิมมาประยุกต์ใช้กับ PC ในปัจจุบัน โดยแต่ละหน่วยจะเรียกว่า “Blade” และประกอบด้วย Mainboard, CPU, Memory, Disk Storage และอุปกรณ์ในการติดต่อกับเครือข่ายเท่านั้น ซึ่งแต่ละ Blade จะใช้อุปกรณ์จ่ายพลังงาน (Power Supply) และระบบระบายความร้อนร่วมกัน องค์ประกอบหลักๆ ของ Blade Server ได้แก่
Chassis คืออุปกรณ์ที่เป็นเหมือนห้อง Data Center ขนาดย่อมที่จะคอยจ่ายไฟและทำความเย็นให้กับเครื่อง Server ที่อยู่ภายใน รวมไปถึงอุปกรณ์เครือข่ายที่อยู่ภายในตู้เดียวกัน
Blade Server คือเครื่อง Server ขนาดเล็ก ที่มีส่วนประกอบภายในได้แก่ CPU, Memory หรือ Harddisk โดยขนาดของมันจะนับเป็น Blade Bay
Switch Modules คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการติดต่อกับโลกภายนอกไม่ว่าจะเป็น Data network หรือ Storage Network
เทคโนโลยีเสมือน (Virtualization)
คือ เทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถใช้ Resource ร่วมกัน เช่น CPU, Memory, Hard disk เป็นต้น ของคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องหรือมากกว่านั้น ให้สามารถใช้งาน Software และ Application ในจำนวนมากๆ หรือแม้แต่ใช้งานหลายระบบปฏิบัติการพร้อมกันได้ แม้ว่าจะเป็น Platform ที่แตกต่างกัน
การทำ Virtualization แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ
- การแบ่งย่อยทรัพยากรโดยเฉพาะบน Hardware ขนาดใหญ่ให้เป็นอุปกรณ์เสมือนขนาดเล็ก ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เช่น การรวมศูนย์การทำงานของระบบเครื่องแม่ข่าย (Server Consolidation) แล้วนำมาติดตั้งบนเครื่องเสมือน (Virtual Machine) หลายเครื่อง โดยใช้เครื่องหลักหนึ่งเครื่องที่มีสมรรถนะของเครื่องสูง
- การนำอุปกรณ์ขนาดเล็ก มาทำงานร่วมกันเสมือนเป็นHardware ขนาดใหญ่ เช่น การทำ High performance Computing เครื่องคอมพิวเตอร์ร่วมกันประมวล
No Comments